วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ความคืบหน้าน้อยโครงการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเลภูเก็ต













นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับตัวแทนชุมชนชาวเลบ้านราไวย์ คณะกรรมการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเลระดับจังหวัด และผู้แทนของเทศบาลตำบลราไวย์ เพื่อรับทราบปัญหาและติดตามความคืบหน้าโครงการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล จังหวัดภูเก็ต ในการแก้ไขปัญหาสิทธิขั้นพื้นฐานเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ว่า ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งที่ได้รับข้อมูลจากชาวเลและทางจังหวัดภูเก็ต พบว่า มีความคืบหน้าค่อนข้างน้อย เช่น ปัญหาที่ดินทำกิน การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภคไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า ประปา เป็นต้น

“การหารือร่วมกันก็เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานให้ชัดเจนว่า ปัญหาใดที่สามารถแก้ไขในระดับชุมชน ระดับจังหวัด หรือเกินขีดความสามารถของจังหวัด เพื่อจะได้สามารถขับเคลื่อนการทำงานให้สามารถบรรลุผลเป็นรูปธรรม แต่สิ่งสำคัญอยากจะเรียกร้องให้ทุกฝ่ายมีความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งต้องเข้าใจด้วยว่ากลุ่มชาวเลได้รับผลกระทบมาเป็นระยะเวลายาวนานพอสมควร แต่จากระเบียบกฎหมายเท่าที่มีอยู่ก็ต้องแก้ตรงพื้นฐานของหลักนิติธรรมโดยอิงกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่ดินทำกิน ซึ่งตามหลักกฎหมายเจ้าของย่อมที่จะมีกรรมสิทธิ์ ดังนั้นการแก้ปัญหาต้องใช้ทั้งการขอความร่วมมือจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ กับขอให้องค์กรปกครองท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน” นายสมชาย กล่าวว่า และว่า

นอกจากที่กล่าวมาแล้วเท่าที่ทราบในส่วนของจังหวัดโดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตต่างก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็อยากให้ทางพี่น้องชาวเลเข้าใจด้วยว่า เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายส่วน และไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายและคงไม่สามารถที่จะดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จได้ในเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงอยากให้มองถึงการอยู่ร่วมกับชุมชนอื่นๆ ด้วย

นายสมชาย กล่าวอีกว่า นโยบายรัฐบาลที่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลในเรื่องนี้เพราะต้องการแก้ปัญหาในระยะถาวรและยั่งยืน ดังนั้นนอกจากการรับฟังข้อมูลจากการรายงานแล้วก็จะต้องลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องในชุมชนด้วย รวมทั้งในส่วนของคณะกรรมการในระดับจังหวัดที่ควรจะลงพื้นที่เพื่อพบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้นด้วย จากนั้นก็จะได้มาลำดับความสำคัญของปัญหา และหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป เพราะขณะนี้ในส่วนของชาวเลเองเนื่องจากเป็นปัญหาเรื้อรังมานานจนมีความรู้สึกเหมือนจะสิ้นหวัง ฉะนั้นในส่วนของราชการก็ต้องให้โอกาสและอดทนต่อการหาวิธีในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่มีอยู่

นอกจากนี้นายสมชาย พร้อมคณะยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพี่น้องชาวเลหมู่บ้านไทยใหม่ แหลมตุ๊กแก ม.4 ต.รัษฎา อ.เมืองจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาและเพื่อรับทราบปัญหาความต้องการเพิ่มเติมจากพี่น้องชาว เลบ้านแหลมตุ๊กแก โดยมีนายเชาวเลิศ จิตจำนง รองนายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา ฝ่ายบริหาร สมาชิกสภาฯ ข้าราชการเทศบาลตำบลรัษฎา และพี่น้องชาวเล ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมรับปากจะดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ได้รับการร้องเรียนโดยจะประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

โดยนายสุธน ประโมงกิจ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ได้เสนอประเด็นปัญหาความเดือดร้อน เกี่ยวกับเส้นทางเข้าออกสุสานของหมู่บ้าน ซึ่งถูกนายทุนปิดมานานหลายปี รวมถึงปัญหากำแพงกันคลื่นหน้าหมู่บ้านซึ่งเสียหายจากการกัดเซาะชายฝั่งของน้ำทะเล โดยเฉพาะในช่วงมรสุมเนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูงทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย

ขณะที่กลุ่มตัวแทน อสม.จังหวัดภูเก็ต ได้เสนอเรื่องการจัดหาทุนการศึกษาให้กับลูกหลานของพี่น้องชาวเล 5 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมแหลมตุ๊กแก ชุมชนราไวย์ สะปำ หินลูกเดียว และชุมชนบ้านแหลมหลาเนื่องจาก เด็กที่จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาส่วนใหญ่มีความประสงค์ที่จะศึกษาต่อจนถึงระดับปริญญาตรี แต่ติดปัญหาไม่มีทุนการศึกษา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น