วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

เลือกภูเก็ตต้นแบบรณรงค์สวมหมวกนิรภัย100%























เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 23 ม.ค.ที่บริเวณสนามชัย ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์สวมนิรภัยในจังหวัดภูเก็ต 100% โดยมีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายทศพร เทพบุตร และนายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมในพิธีเปิด และร่วมกันปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์จากทุกภาคส่วน ทุกองค์กรที่เข้าร่วมโครงการฯ รวมประมาณ 10,000 คัน ออกรณรงค์ไปตามเส้นทางต่างๆ ในตัวเมืองจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์ และผู้ซ้อนท้ายมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนและเพื่อให้ประชาชนจังหวัดภูเก็ต ได้ถือปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นจังหวัดต้นแบบของประเทศไทยนายสุเทพ กล่าวว่า โครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยในจังหวัดภูเก็ต 100 % เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน และเป็นตัวอย่างที่จะให้จังหวัดอื่นๆ นำไปปฏิบัติต่อไป ซึ่งการลดอุบัติเหตุเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างจริงจัง รวมถึงจะต้องอาศัยความเข้มแข็งของทุกฝ่ายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้น เนื่องจากเป็นเรื่องที่ป้องกันได้ ประกอบกับในช่วงปี 2011-2020 องค์การอนามัยโลกกำหนดให้เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัย เช่นเดียวกับรัฐบาลไทยก็ได้กำหนดให้ปี 2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนนด้วยเช่นกัน โดยมีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้ได้ 50 % ในปี 2563 “ในการดำเนินการแก้ไขปัญหานั้น จะต้องแก้ไขปัจจัยเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูง ได้แก่ พฤติกรรมของผู้ขับขี่ซึ่งจะต้องมีการปรับเปลี่ยน เช่น ไม่มีใบขับขี่ ขับรถเร็วเกินกำหนด เมาแล้วขับ เป็นต้น ปัญหาด้านโครงสร้างวิศวกรรมจราจร การวางผังเมือง จุดเสี่ยง จุดตัด ทางแยกต่างๆ โดยจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข รวมถึงการยกระดับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง นอกจากนี้จะต้องเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบในส่วนของรถให้บริการสาธารณะเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาจะพบว่าเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อย เช่น รถตู้ รถรับส่งนักเรียน เป็นต้น ทั้งนี้จะต้องสร้างกระแสและกระตุ้นให้ผู้ขับขี่รับรู้รับทราบผลกระทบของอุบัติที่เกิดขึ้น” นายสุเทพกล่าวด้านนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุย้อนหลัง 5 ปี จังหวัดภูเก็ตมีประชาชนต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ปีละกว่า 200 ราย บาดเจ็บสาหัส 5,699 ราย บาดเจ็บธรรมดา 61,141 ราย มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจรวมประมาณปีละ 7,290 ล้านบาท หรือเดือนละ 280 ล้านบาท ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดจากรถจักรยานยนต์ 80% และส่วนใหญ่ไม่สวมหมวกนิรภัย จากความสูญเสียและความเสียหายดังกล่าว ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดทำโครงการรณรงค์ให้ประชาชนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้นั่งซ้อนท้าย 100% ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553 เป็นต้นมา และกำหนดให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในวันที่ 1 กรกฎาคม 2553 ปรากฏว่าได้รับความสนใจและความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี สร้างความพึงพอใจให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เห็นความสำคัญ จึงได้ส่งคณะทำงานมาศึกษารูปแบบ เก็บข้อมูล วิเคราะห์ เพื่อนำไปเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นๆ ดำเนินการต่อไปนอกจากนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้มีการขยายโครงการรณรงค์ทั้งจังหวัดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 เป็นต้นมา และกำหนดบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป และจากสถิติอุบัติเหตุที่เกิดจากรถจักรยานยนต์ ก่อนที่จะมีการรณรงค์ จังหวัดภูเก็ตมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยเดือนละ 16 ราย เมื่อเริ่มโครงการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตลดลง 50% ด้วยสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้พี่น้องประชาชนเห็นความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัย จึงได้ให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง นับเป็นแบบอย่างที่ดี และเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดภูเก็ตที่ได้ดำเนินการโครงการนี้จนประสบความสำเร็จเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย นายตรี กล่าวในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น